การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก และการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ/โภชนาการของมารดาก็มีความสำคัญเมื่อให้นมลูก การตัดสินใจไม่ให้นมลูกอาจเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข นมผงสำหรับทารกเหมาะตั้งแต่แรกเกิดเมื่อทารกไม่ได้กินนมแม่ ขอแนะนำให้ใช้นมสูตรทั้งหมดตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาลผดุงครรภ์ ผู้มาเยี่ยมเยียนด้านสุขภาพ พยาบาลสาธารณสุข นักโภชนาการ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ที่รับผิดชอบในการดูแลแม่และเด็ก และควรคำนึงถึงผลกระทบทางการเงินด้วย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการเตรียมและการให้อาหารทั้งหมดอย่างระมัดระวัง เนื่องจากการจัดเตรียมที่ไม่เหมาะสมอาจนำไปสู่อันตรายต่อสุขภาพได้

10 เคล็ดลับ การเลี้ยงเด็กให้มีพัฒนาการที่ดีที่สุด

1. เลี้ยงจากใจไม่ใช่หน้าที่

การเลี้ยงเด็ก เลี้ยงดูลูกอย่างดีที่สุด อย่างถูกต้อง ต้องเข้าใจว่า ลูกต้องการความรักจากคุณ การเลี้ยงด้วยใจ ไม่ใช่แค่ทำไปตามหน้าที่ และก็ไม่ใช่การตามใจลูกทุกครั้งที่ลูกร้องไห้เช่นกัน สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติในการเลี้ยงเด็ก: คือการสอนให้ลูกเข้าใจว่าการร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือการร้องไห้เพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องการ แบบไหนเหมาะสม และสอนให้เขารู้ว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่ลูกร้องไห้แล้วจะได้ทุกอย่างเสมอไป เพื่อให้เขาเข้าใจเหตุผลและไม่เกิดความเครียดได้ค่ะ

2. เลี้ยงลูกด้วยการพูดคุย

ลองจินตนาการดูว่า ลูกคุณถูกเลี้ยงโดยหุ่นยนต์ ไม่มีการพูดการจา ไม่มีการสื่อสารใดๆ ทั้งสิ้น วันๆ ให้เขากินและนอนอย่างเดียว ไม่ได้มอง ไม่ได้เล่น ไม่ได้สมผัส ไม่ได้คิด และพอไม่เกิดสิ่งเหล่านี้สมองก็จะไม่พัฒนาเลย หรือพัฒนาก็ช้ามาก ดังนั้น การเลี้ยงเด็กอย่างได้ผล ให้มีพัฒนาการดี เลี้ยงลูกให้มีสมองที่ฉลาด ให้สื่อสารได้ดี และลดความดื้อ คือการหมั่นพูดคุยกับลูกบ่อยๆ แต่งดการใช้ภาษาแบบเด็ก แต่ต้องพูดเพราะ ด้วยการใช้คำใช้ประโยคที่เข้าใจได้ง่ายๆ ทั่วไป ด้วยความหมายที่เข้าใจได้ทันที เช่น ทานข้าวนะคะ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ: พูดกับลูกโดยใช้ภาษาที่คุณถนัดที่สุด และใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย และอย่าประเมินเรื่องการได้ยิน การเข้าใจภาษาของลูกต่ำไป

3. การเลี้ยงดูลูกด้วยการสัมผัส

การเลี้ยงลูกด้วยสัมผัสจะช่วยกระตุ้นความรู้สึกต่างๆของลูกรวมถึงการเรียนรู้ ทั้งยังมีส่วนช่วยให้ลูกรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้นด้วย สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : พยายามสัมผัสโดยการโอบกอด หอม จับมือ คุณแม่อาจนวดตัวให้ลูกทั่วร่างกายหลังอาบน้ำให้ลูกพร้อมพูดคุยเรื่องต่างๆ ไปด้วยค่ะ

4. เลี้ยงเด็กให้เลียนแบบ

ลูกจะสนใจมองหน้าคุณเป็นพิเศษ เด็กแรกเกิดจะจ้องตาคุณและพยายามเลียนแบบสีหน้าท่าทางของคุณ เช่น การยิ้มหรือการทำหน้าหงุดหงิด สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ให้กำลังใจและให้ลูกทำหน้าตาท่าทางเหมือนคุณ เช่น ยิ้ม จ้อง หัวเราะ ทำหน้าดุ แลบลิ้น เพื่อช่วยบริหารใบหน้าลูกด้วย

5. ให้ลูกได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ เองบ้าง

พยายามให้ลูกได้พบเจอและมีส่วนร่วมในสถานการณ์ต่างๆรอบๆตัวเพื่อช่วยเพิ่มทักษะในการเรียนรู้ สิ่งที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยง : การปล่อยให้ลูกดูทีวีไปเรื่อยๆ ไม่ใช่สิ่งที่ช่วยเพิ่มพูนทักษะได้ แต่การให้ลูกได้ออกไปพบเจอสิ่งต่างๆในโลกภายนอกที่เป็นของจริงจะช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้ดีกว่าค่ะ

6. เลี้ยงเด็กให้หัดสำรวจ

ส่งเสริมให้ลูกเป็นนักสำรวจได้ด้วยการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีพื้นที่เป็นของตัวเองให้ลูกได้ทำกิจกรรมการค้นหา เช่น ห้องนั่งเล่น สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ควรวางสิ่งของที่อาจเป็นอันตรายให้ห่างจากลูกมากที่สุด เก็บสายไฟหรือปลั๊กให้พ้นมือลูก และเลือกของเล่นที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับวัยของลูก

7. เลี้ยงเด็กให้รักการอ่าน

เสริมทักษะการอ่านให้ลูกง่ายๆด้วยการอ่านหนังสือให้ลูกฟังตั้งแต่วัยเด็ก ลูกอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณเล่า แต่จะรู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมกับเสียงหรือท่าทางต่างๆของคุณ และภาพประกอบในหนังสือหรือนิทานนั้น สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกหนังสือหรือนิทาน หนังสือนิทานแบบป๊อบอัพหรือแบบที่มีพื้นผิวให้สัมผัส สามารถเรียกความสนใจจากลูกได้

8. ใช้ดนตรีช่วย

การเลี้ยงเด็กให้ฉลาด การร้องเพลงหรือเล่นดนตรีให้ลูกฟังส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสมองของลูกอย่างมาก โดยเฉพาะเพลงที่มีจังหวะสม่ำเสมอ สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ: ลองแต่งเพลงขึ้นใหม่ อาจเป็นเพลงง่ายๆ สบายๆ เนื้อร้องที่สนุกๆ หรือล้อเลียนเพื่อให้คุณและลูกได้มีเวลาแห่งความสนุกร่วมกัน หรือเปิดเพลงเวลาทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เพลงช้าๆเวลาป้อนอาหาร หรือเพลงสนุกๆ เวลาเล่นกับลูก

9. ปล่อยให้ลูกได้เล่น

การเลี้ยงลูกด้วยการปล่อยให้เด็กได้เล่น ให้มีความสนุก นั่นคือสิ่งที่ลูกเรียนรู้ กิจกรรมและการเล่นช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ให้กับลูกได้ สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ : ลองใช้อุปกรณ์ที่เน้นด้านกราฟฟิค เช่น การ์ดสีสันต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจและเป็นการฝึกทักษะการเอาใจใส่ไปในตัว และอย่าลืมอธิบายสีและรูปภาพต่างๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ไปด้วย

10. ใช้คำชมช่วยเลี้ยงลูก

ให้กำลังใจหรือคำชมเชยเมื่อลูกทำสิ่งที่ถูกต้อง และให้ลูกได้เรียนรู้และสำรวจในสิ่งที่เขาชอบ สิ่งที่คุณแม่ควรปฎิบัติ: ให้กำลังใจลูก เช่น “หนูทำได้นะคะ” หรือ “เก่งมากค่ะ” เวลาที่ลูกทำสำเร็จ และใส่ใจในกิจกรรมที่ลูกทำเพื่อให้เขาไม่รู้สึกกังวลและให้รางวัลตอบแทนเป็นบางครั้ง (วิธนี้ไม่เหมาะกับเด็กโตที่เริ่มพูดคุยได้แล้ว เพราะจะทำให้เขาคิดว่า ต้องเก่งเท่านั้น ต้องทำถูกเท่านั้น ถึงจะดี ถึงจะได้คำชม ซึ่งพ่อแม่ควรอย่าลืมว่า ความผิดพลาดต่างหาก ถึงจะเป็นครูสอนลูกได้ดีที่สุด)

อ่านเพิ่มเติม

การเลี้ยงเด็ก อาหารเด็ก อาหารเด็ก 6 เดือน

Careline Footer

Careline เคียงข้างคุณแม่…ดูแลลูกรัก

ทุกคำถามที่คุณแม่อยากรู้ เราพร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญพยาบาล และนักโภชนาการ.

x