สารอาหาร และภูมิต้านทานในเด็ก?
สารอาหารซึ่งปกติมีอยู่ในอาหาร 5 หมู่ มีส่วนสำคัญในการรักษาระดับระบบภูมิต้านทานทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งนี้ การได้รับสารอาหารที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็มีผลต่อร่างกายแตกต่างกันไป
เด็กทารกและเด็กเล็กสามารถติดเชื้อหรือมีอาการเจ็บป่วยต่างๆได้ง่ายกว่าเด็กโต คุณสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กในเรื่องของสารอาหาร คุณแม่จะสามารถดูแลอย่างไรได้บ้าง เรามีคำถามจากคุณแม่ท่านอื่นๆ และคำตอบจากศาสตราจารย์ รานจิต คูมาร์ จันทรา ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับภูมิต้านทานและโภชนาการดังนี้ค่ะ
ได้ยินมาว่าช่วงขวบปีแรก เด็กๆ สามารถรับเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่ายและเจ็บป่วยง่าย ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นคะ?
เด็กแรกเกิดนั้น ระบบภูมิต้านทานยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงปกป้องเชื้อโรคต่างๆได้ไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ และอาจใช้เวลา 3-5 ปีเพื่อให้มีประสิทธิภาพเต็มที่เหมือนผู้ใหญ่
หลายๆครอบครัวเชื่อว่า เด็กอ้วนท้วนคือเด็กที่แข็งแรง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะจากการศึกษาพบว่าน้ำหนักตัวที่มากเกินไปหรือโรคอ้วนจะลดประสิทธิภาพของภูมิต้านทานของร่างกาย คุณหมอมีความคิดเห็นว่าอย่างไรคะ?
ถ้าลูกได้รับสารอาหารน้อยเกินไปจะมีผลเสียต่อการทำงานของระบบภูมิต้านทานของร่างกาย แต่ถ้าได้รับมากเกินไปหรือเกิดโรคอ้วนก็ส่งผลเสียเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังส่งผลต่อการทำงานของร่างกายด้วย
สารอาหารบางประเภท เช่น โปรตีน วิตามินบี 6 และแอนตี้ออกซิแดนท์ (วิตามินเอ ซี อี สังกะสี ซีลีเนียม และเบต้าแคโรทีน) มีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการเสริมสร้างภูมิต้านทาน และทำงานกันอย่างไรบ้าง?
สารอาหารแต่ละอย่างมีหน้าที่แตกต่างกันไป สารอาหารหลายๆตัวดังกล่าวรวมถึงธาตุเหล็กและวิตามินบี 6 มีส่วนสำคัญต่อเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม สารอาหารอื่น เช่น ธาตุสังกะสี ก็มีส่วนสำคัญกับเอนไซม์ที่ทำงานเกี่ยวกับการทำงานของดีเอ็นเอ การแบ่งตัวของเซลล์ และโครงสร้างโปรตีนในร่างกาย ทั้งหมดนี้ล้วนมีบทบาทในระบบภูมิต้านทาน
มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเสริมสร้างภูมิต้านทานให้เด็กทารกและเด็กเล็กโดยการควบคุมอาหารอย่างไรบ้างคะ? มีคำ 3 คำที่สำคัญที่คุณแม่สามารถนำไปใช้ คือ
1. ความสมดุล (Balance) อาหารต่างๆ ควรเป็นอาหารที่มีคุณค่าครบทั้ง 5 หมู่
2. ความหลากหลาย (Variety) อาหารแต่ละกลุ่มควรมีความหลากหลาย เช่น ผักและผลไม้ 2-3 ชนิด ย่อมดีกว่าการทานชนิดเดียวซ้ำๆ
3. ความพอเพียง (Moderation) ควรทานไม่น้อยและไม่มากเกินไป
เด็กเล็กมักจะเผชิญกับปัญหาการป่วยที่เรื้อรังกว่าเด็กโตและผู้ใหญ่ ปัจจุบันมีการโต้เถียงกันว่าวิตามินสามารถช่วยปกป้อง หรือช่วยให้เด็กหายป่วยได้เร็วขึ้น หากทานวิตามินซีมากๆ เช่น ทานผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้เด็ก และทำให้เด็กๆ ห่างไกลจากไข้หวัดหรือไม่?
การทานผลไม้มากๆดีต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกาย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการทานวิตามินซี จริงๆแล้วลูกก็จะได้วิตามินซีที่มีอยู่ในอาหาร รวมถึงสารอาหารประเภทอื่นที่มีในผักต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน ดังนั้นควรทานอาหารให้เหมาะสม ไม่ควรเลือกอย่างหนึ่งอย่างใดมากเกินไป
คุณจะให้อาหารเสริมที่เป็นวิตามินและเกลือแร่รวมแก่เด็กๆ ที่มีพฤติกรรมทานได้น้อยหรือเลือกทานอาหาร เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้พวกเขาหรือไม่ ถ้าใช่ อาหารเสริมประเภทใดที่แนะนำ และทำไมคะ?
จริงๆ แล้ว ไม่มีวิตามินตัวไหนที่จะผสมกันแล้วสามารถช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับเด็กๆ ได้ดีเท่ากับการทานอาหารที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กกลุ่มนี้ ก็พอมีวิตามินสำหรับพวกเขาบ้าง ซึ่งคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม
มีคนบอกว่า กระเทียม หัวหอม สามารถช่วยเสริมภูมิต้านทานได้ จริงหรือไม่คะ
มีผลการพิสูจน์ว่ากระเทียมสามารถช่วยปกป้องและลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง โดยมีการทดสอบในสัตว์ ซึ่งหลายๆ แห่งแนะนำว่าจะได้ผลใกล้เคียงกันในมนุษย์ แม้ว่าจะไม่มีการพิสูจน์กับมนุษย์โดยตรงก็ตาม
แล้วองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ความเครียด การนอนน้อย มีผลต่อระบบภูมิต้านทานหรือไม่คะ?
เมื่อร่างกายและจิตใจเกิดความเครียดหรือกังวล ย่อมส่งผลอย่างมากต่อระบบภูมิต้านทานแน่นอน อาการนอนไม่หลับสามารถส่งผลกระทบต่อการตอบรับของภูมิต้านทาน คุณแม่คุณพ่อต้องให้ความช่วยเหลือ โดยการหากิจกรรมเพื่อสร้างความบันเทิงและเสริมทักษะไปในตัว รวมถึงให้ความรักความอบอุ่นเพื่อให้ลูกรู้สึกถึงความห่วงใยและไม่รู้สึกกังวลใดๆ
การออกกำลังกายช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานอย่างไรคะ
การออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายได้มีการเคลื่อนไหว สามารถช่วยเสริมสร้างการตอบสนองของภูมิต้านทานได้เป็นอย่างดี เช่น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซลล์ต่างๆ ที่มีหน้าที่ทำลายเชื้อโรค การทำงานของเม็ดเลือกขาว เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลโดย ศาสตราจารย์ รานจิต เค จันทรา (Prof Ranjit K Chandra)
เคล็ดลับน่ารู้
Careline เคียงข้างคุณแม่...ดูแลลูกรัก
ทุกคำถามที่คุณแม่อยากรู้ เราพร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ