สิ่งสำคัญที่ควรทราบ

นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เราสนับสนุนคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต จากนั้นเริ่มให้อาหารเสริมตามวัยที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสมร่วมกับนมแม่จนครบ 2 ปี หรือนานกว่านั้น การได้รับโภชนาการที่ดีและสมดุลของมารดาในช่วงให้นมบุตรจึงมีความสำคัญยิ่ง ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้นมผสม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนตัดสินใจ และควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียมและการใช้อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก

โภชนาการที่ดีควบคู่กับการส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย คือ รากฐานสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของลูกรัก ฮาร์ททูฮาร์ทคลับ พร้อมเคียงข้างคุณแม่ ด้วยข้อมูลด้านโภชนาการและพัฒนาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกรัก

ผลเสียต่อเด็กต่ำกว่า 3 ขวบจากการอยู่หน้าจอมากเกินไป

ลูกติดมือถือ ติดหน้าจอ เป็นปัญหาใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของยุคนี้เลยก็ว่าได้ สิ่งที่ผู้ใหญ่เล่นกันทุกวันตลอดเวลาจนติดหน้าจอ อาจดูไม่มีอันตรายใดๆ

แต่สำหรับเด็กก่อนวัยอันควรแล้ว จะส่งผลต่อพัฒนาการเด็กแทบทุกด้านให้ล่าช้าลงได้ดังต่อไปนี้

พัฒนาการด้านสื่อสารช้ากว่าคนอื่น เช่น พูดช้า หรือพูดไม่ชัด
ขาดความคิดสร้างสรรค์
พัฒนาการด้านการมองเห็น ที่ผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตาเอียง หรือมีอาการตาแห้ง
ร่างกายไม่แข็งแรง น้ำหนักเกิน เหนื่อยง่าย เพราะไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย
ปัญหาการควบคุมอารมณ์ ทำให้หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย ใจร้อน ก้าวร้าว รออะไรไม่เป็น เพราะเด็กจะแยกแยะโลกความจริงกับโลกออนไลน์ไม่ได้
สมาธิสั้น ทำอะไรก็เบื่อง่าย นิสัยต่อต้าน มีโลกส่วนตัวสูง
กระทบต่อการนอน ทำให้ การนอนไม่เพียงพอตามช่วงวัยที่เหมาะสม หรือนอนไม่หลับ

วัยที่อนุญาตให้เล่นมือถือหรืออยู่หน้าจอได้

สำหรับลูกน้อยที่อายุยังไม่ถึง 2 ขวบ ไม่ควรให้อยู่หน้าจอใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทีวี หรืออุปกรณ์ใดๆ ก็ตาม (ยกเว้นวิดีโอแชท คุย facetime ฯลฯ) และสำหรับเด็กที่โตกว่านั้น หลัง 2 ขวบไปแล้วจนถึง 5 ขวบ ก็ต้องจำกัดเวลาอยู่หน้าจออย่างเคร่งครัด ไม่ควรเล่นให้เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยเท่านั้น

และสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรจำไว้เสมอ แม้การให้ลูกเล่นมือถือ นั่งมองจอ จะทำให้ลูกหยุดงอแง หยุดเอาแต่ใจตัวเองได้ในตอนนี้ แต่ผลเสียระยะยาวหนักหนากว่ามาก เพราะช่วงวัยแรกเกิดถึง 3 ขวบ มีความสำคัญมากต่อพัฒนาการเด็ก

ดังนั้น พ่อแม่ควรหากิจกรรมอื่นๆ ที่ทำร่วมกับลูก ไม่ว่าจะเป็นการ เล่นดนตรี ขี่จักรยาน ออกกำลัง ร้องเพลงให้ลูกฟัง โอบกอด แสดงความรัก เปิดเพลงให้ลูกฟัง ให้ลูกได้สมผัสธรรมชาติ หรือแม้แต่พูดคุยกับลูกบ่อยๆ ให้ลูกอยู่ในโลกแห่งความจริงมากกว่าอยู่หน้าจอ เพื่อพัฒนาการที่ดีของลูกคุณเอง แถมคุณยังจะได้เรียนรู้ความคิดของลูกคุณมากขึ้นอีกด้วย