พัฒนาการลูกวัยเบบี๋ 4-6 เดือน
การให้นมทารก
เมื่อลูกถึงวัยนี้ คุณควรเริ่มคิดถึงการให้อาหารอื่นๆแก่ลูกนอกเหนือจากการให้นม (ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ควรเริ่มให้อาหารเสริมเมื่อทารกอายุครบ 6 เดือน) การฝึกให้ลูกกินอาหารเสริมจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อในปากของลูกซึ่งมีผลต่อการพูด รวมทั้งทำให้ลูกได้เรียนรู้รสชาติอาหารแบบใหม่ๆด้วย ทั้งนี้คุณแม่อาจเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับทารกอายุ 6 เดือนขึ้นไป เพื่อเสริมมื้อนมที่จะเริ่มลดลงด้วย
พัฒนาการของลูกน้อย
ลูกเกือบจะนั่งได้แล้ว
ส่งเสียงทั้งสระและพยัญชนะ พูดคำเฉพาะทีมีความหมายส่วนตัว เช่น แมะ ปา ส่งเสียงหลายเสียงรวดเดียวจึงค่อยหายใจ พยายามเลียนแบบเสียง ตั้งใจฟังเสียงตัวเองและเสียงผู้อื่น
ลูกน้อยจวนจะเริ่มไปโน่นมานี่ได้เองแล้ว
ชอบคลานเข้าไปเล่นกระจก สำรวจร่างกายของตัวเองด้วยปากและมือ อาจจะกลัวคนแปลกหน้า เริ่มแสดงอารมณ์ขัน
แสดงความต้องการเป็นคนหนึ่งในสังคม ขัดขืนเมื่อถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ แยกความต่างระหว่างเสียงที่เป็นมิตรและเสียงโกรธ ชอบเล่นของเล่นมีเสียง
ลูกคว้าจับได้ดีขึ้นและมองเห็นสิ่งต่างๆ ชัดขึ้น
คุณแม่ควรหาหนังสือภาพสัตว์มาอ่านให้ลูกฟัง เพราะจะช่วยกระตุ้นความสนใจของลูกและทำให้ลูกได้เรียนรู้เสียงแปลกๆ ใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น ลูกจะตื่นเต้นกับสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติทั้งในและนอกบ้านในช่วงเวลานี้ การให้ลูกคลานเล่นที่พื้น หรือชี้ชวนให้ลูกดูสิ่งต่างๆ พร้อมกับเรียกชื่อของสิ่งนั้นไปด้วย จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก หลังอายุ 6 เดือน ลูกน้อยจำเป็นต้องได้รับอาหารเสริมเพื่อเพิ่มเติมสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คุณแม่สามารถนำนมแม่ มาปรุงเป็นอาหารให้ลูกได้ จะปรุงอย่างไรเพื่อให้คงไว้ซึ่งสารอาหารที่มีประโยชน์ในน้ำนมแม่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ลูกเริ่มหัดเปล่งเสียง
ลูกน้อยจะเริ่มออกเสียงแบบต่างๆ จะมีเสียงเกิดขึ้นตลอดเวลาที่หนูน้อยออกเสียงอืออาและเล่นเสียง บางครั้งคุณอาจเได้ยินเสียงเบาๆคล้ายคำว่า “แม่” หรือ “พ่อ” แต่คุณแม่คงต้องรอสักนิดกว่าลูกจะรู้จักเรียก “แม่” อย่างแท้จริง เพราะในเวลานี้ ลูกเพียงฝึกออกเสียงแบบต่างๆ เท่านั้น คุณแม่จะได้ยินเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสนุกสนานเป็นครั้งแรก ลองเล่นจั๊กจี้เบาๆ กับลูกดูสิ แม่กับลูกจะได้หัวเราะสนุกสนานร่วมกัน คุณแม่ควรพูดคุยกับลูกบ่อยๆ เพราะจะเป็นการฝึกพัฒนาการด้านการพูดของลูกได้เป็นอย่างดี
การเรียนรู้
คุณแม่สามารถช่วยให้ลูกน้อยเรียนรู้ทักษะใหม่ๆได้แม้ว่าลูกจะยังพูดโต้ตอบไม่ได้ คุณแม่ก็ควรพูดคุยกับลูกบ่อยๆ ส่งยิ้มให้ลูกจะช่วยให้ลูกพูดได้เร็วขึ้น เมื่อถึงมื้ออาหารก็เปิดโอกาสให้ลูกได้ทานเองเพื่อฝึกการใช้มือและนิ้ว ลูกน้อยจะสนุกกับการทานอาหาร เวลาอาบน้ำจะยิ่งเป็นเวลาสนุกสนานมากขึ้นสำหรับลูก เพราะลูกจะได้เรียนรู้ว่าการเคลื่อนไหวร่างกายอาจทำให้เกิดสิ่งต่างๆ ขึ้น เช่น การตีน้ำในอ่างดังจ๋อมแจ๋ม
คุณรู้หรือไม่?
แครอทมีรสหวานตามธรรมชาติและเป็นที่โปรดปรานของเด็กทารก อีกทั้งยังเป็นการฝึกให้ลูกชอบกินผักตั้งแต่เล็กๆ ด้วย
เรื่องที่คุณแม่ส่วนใหญ่อยากรู้
Careline เคียงข้างคุณแม่…ดูแลลูกรัก
ทุกคำถามที่คุณแม่อยากรู้ เราพร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญพยาบาล และนักโภชนาการ