สิ่งสำคัญที่ควรทราบ

นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เราสนับสนุนคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต จากนั้นเริ่มให้อาหารเสริมตามวัยที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสมร่วมกับนมแม่จนครบ 2 ปี หรือนานกว่านั้น การได้รับโภชนาการที่ดีและสมดุลของมารดาในช่วงให้นมบุตรจึงมีความสำคัญยิ่ง ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้นมผสม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนตัดสินใจ และควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียมและการใช้อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก

โภชนาการที่ดีควบคู่กับการส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย คือ รากฐานสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของลูกรัก ฮาร์ททูฮาร์ทคลับ พร้อมเคียงข้างคุณแม่ ด้วยข้อมูลด้านโภชนาการและพัฒนาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกรัก

วิธีรับมือลูกงอแงไปโรงเรียนวันแรก

เมื่อลูกน้อยเข้าสู่ช่วง 2-3 ขวบ ก็ถึงวัยที่สามารถเข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาลได้แล้ว สิ่งที่พ่อแม่มือใหม่หลายคนต้องเจอ คือ ลูกงอแงไม่ยอมไปโรงเรียน สาเหตุเนื่องมาจากภาวะวิตกกังวลต่อการแยกจาก (separation anxiety) ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของพัฒนาการเด็กตามวัย

เราจะทำให้ลูกเข้าใจการแยกจากกันครั้งแรกได้อย่างไร โดยไม่งอแง ร้องไห้หาพ่อแม่ ในวันแรกๆ ของการไปโรงเรียน เป็นคำถามที่หลายๆครอบครัวต้องเตรียมหาวิธีรับมือเมื่อวันนั้นมาถึง

วิธีบรรเทาอาการวิตกจาการแยกจากกัน

5 วิธีเตรียมพร้อมรับมือลูกร้องงอแงเมื่อต้องไปโรงเรียน

1. สร้างความคุ้นเคยกับครูและโรงเรียน

ก่อนเริ่มเรียนวันแรก ควรพาลูกไปเดินเล่นที่โรงเรียน ไปหาคุณครู ให้เจอหน้าทำความรู้จักกับครูก่อนได้ยิ่งดี หรือ การได้รู้จักเพื่อนๆร่วมห้องเรียน เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆให้กับลูกก่อน จะช่วยลดความวิตกกังวลให้กับลูกได้เป็นอย่างดี

2. ค่อยๆเพิ่มเวลาแยกจากกัน

พ่อแม่ ค่อย ๆเพิ่มเวลาในการปล่อยให้ลูกได้อยู่กับครูและเพื่อนๆเพิ่มมากขึ้น ในทุกๆวัน เช่น วันแรก อาจอยู่ที่โรงเรียน เพียง 1-2 ชม. และเพิ่มเวลา เป็น 2-3 ชม.ในวันถัดมา

3. เตรียมความพร้อมให้กับพ่อแม่และลูก

พ่อแม่ต้องมีความมั่นใจและพร้อมที่จะส่งลูกไปโรงเรียน ด้วยสีหน้าแววตาที่มั่นคง ยิ้มแย้มแจ่มใส บอกลูกว่าลูกจะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ สิ่งดีๆที่ลูกจะได้พบเจอในโรงเรียน ชื่นชม ว่าลูกรู้หน้าที่ กอด หอมแก้ม ให้กำลังใจสร้างความเชื่อมั่นว่าลูกทำได้ และพ่อกับแม่จะอยู่เคียงข้างลูกเสมอ อาจให้ของแทนตัวพ่อแม่ เช่น ตุ๊กตาตัวโปรด ผ้าผืนโปรดติดตัวไปในช่วงแรกๆ

4. บอกลูกทุกวัน ว่าพ่อแม่รีบมาเจอลูกอีกครั้งเมื่อถึงเวลาเลิกเรียน

เมื่อถึงเวลาที่พ่อแม่มารับลูกตอนเลิกเรียน ให้ย้ำบอกกับลูกว่า เห็นไหมว่าพ่อแม่ไม่ได้ไปไหน เราจะได้เจอกันใหม่ทุกวัน ลูกเก่งมาก ลูกรู้หน้าที่ ลูกจะได้ภูมิใจ ลืมความกังวล และตอนมาส่งลูกไม่ควรทิ้งลูกไว้กับครูแล้วหายหน้าไปเลย จะยิ่งทำให้ลูกกังวลและระแวงกลัวว่าจะถูกทิ้ง ซึ่งมีผลทำให้ลูกไม่ยอมไปโรงเรียนได้

5. พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีมีความมั่นคง เข้มแข็ง

เมื่อลูกงอแง ไม่ยอมไปโรงเรียน พ่อแม่ต้องหนักแน่น พูดให้กำลังใจ และส่งลูกให้กับครูให้ได้ แม้จะต้องแยกกันทั้งๆที่ลูกร้องไห้ก็ตาม คุณต้องใจแข็ง ยิ้มแย้ม เดินจากลูกด้วยแววตาที่มั่นคง ห้ามแสดง สีหน้าความกังวลใจให้ลูกเห็น หรือพาลูกกลับบ้านเด็ดขาด เพราะนั่นจะทำให้ลูกสับสนและเกิดการต่อรอง งอแงมากขึ้นในวันถัดไป หากคุณทำได้อย่างต่อเนื่องลูกจะเกิดการเรียนรู้ และปรับตัวได้ในเวลาไม่นาน