1. อาการอยากอาหารที่ไม่ปกติ

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์มีผลทำให้เกิดความอยากอาหารที่มากกว่าปกติ ทั้งอาหารที่เคยทานและไม่เคยทาน หรืออยากทานสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร เช่น  ทราย ถ่าน น้ำแข็ง หรือดิน จึงขอแนะนำให้คุณแม่คำนึงประโยชน์ของอาหารที่จะเลือกทาน  ทั้งนี้เพื่อสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

2. ไม่ควรทานอะไรบ้างในช่วงตั้งครรภ์

ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมที่ไม่มีประโยชน์ทางโภชนาการต่างๆ ทั้งขนมหวาน ไอศครีม น้ำอัดลม ของดอง ขนมเค้ก และของเชื่อมทุกอย่าง ที่มีน้ำตาลมาก ,เลี่ยง อาหารดิบต่างๆ อย่าง ไข่ดิบและเนื้อดิบ , เลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ใส้กรอก อาหารแช่แข็งอาหารสำเร็จรูปต่างๆ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดซึ่งอาหารเหล่านี้สามารถส่งผลต่อพัฒนาการลูกในครรภ์ได้โดยตรง

3. สรุปแล้วแม่ตั้งครรภ์ควรทานอะไรดีที่สุด

-ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน

-ผักใบเขียว จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการสมองที่ดี มีกรดโฟลิกช่วยป้องกันสมองทารกไม่ให้ถูกทำลายง่าย และลดความเสี่ยงโรคปากแหว่งเพดานโหว่อีกด้วย

-ผลไม้ ธัญพืช และถั่วชนิดต่างๆ วันละประมาณ 9 ทัพพี สร้างใยอาหารให้ร่างกาย

-ไข่ โปรตีนชั้นดี เป็นสารอาหารสำคัญต่อการสร้างเซลล์ให้ลูกน้อยในครรภ์ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์สมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และเพิ่มปริมาณเลือด (ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การรับโปรตีนน้อยไป อาจทำให้สมองทารกในครรภ์มีขนาดเล็กกว่าปกติได้ ดังนั้นแม่ควรได้ทานโปรตีนอย่างน้อยวันละ 600 กรัม

-ปลาแซลมอน มีโอเมก้า3 สูงมาก และยังมีไอโอดีน ช่วยเรื่องของการกระตุ้นสมอง บำรุงเซลล์สมอง และเพิ่มประสิทธิภาพความจำให้กับลูกในครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ก็ยังมีปลาชนิดอื่นๆ ที่ทานได้ เช่น ปลาทู ปลาช่อน ปลาสวาย ปลาตระกูลปลาแมคเคอเรล ปลาโอลาย ปลาสลิด แนะให้หาเมนูอาหารที่มีเนื้อปลาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งเป็นอย่างน้อย

-แนะนำคุณแม่เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ในทุกวันเพื่อให้มั่นใจว่าได้สารอาหารอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลาย

-สอบถามสูติแพทย์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หากไม่แน่ใจว่าได้สารอาหารครบ 5 หมู่

Source:

https://www.hifamilyclub.com/pregnancy/nutrition-and-health/eating-well-in-pregnancy.html

https://www.bpksamutprakan.com/care_blog/view/153

https://bit.ly/3Qd7woA