สิ่งสำคัญที่ควรทราบ

นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เราสนับสนุนคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต จากนั้นเริ่มให้อาหารเสริมตามวัยที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสมร่วมกับนมแม่จนครบ 2 ปี หรือนานกว่านั้น การได้รับโภชนาการที่ดีและสมดุลของมารดาในช่วงให้นมบุตรจึงมีความสำคัญยิ่ง  ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้นมผสม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนตัดสินใจ และควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียมและการใช้อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก


โภชนาการที่ดีควบคู่กับการส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย คือ รากฐานสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของลูกรัก ฮาร์ททูฮาร์ทคลับ พร้อมเคียงข้างคุณแม่ ด้วยข้อมูลด้านโภชนาการและพัฒนาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกรัก

3 เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้ฉลาดและมีพัฒนาการดีที่สุด

เราต่างเห็นพัฒนาการเด็กกับการเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่แตกต่างกันไป บ้างเรียนเก่งเลข บ้างเรียนเก่งศิลปะ บางคนโตมาเป็นศิลปินวาดภาพโด่งดัง ในขณะที่บางคนถนัดให้คำปรึกษา แก้ปัญหาเก่ง หรือเก่งตัวเลข ชอบทำบัญชี หรือเก่งค้นคว้าหาข้อมูล แต่ก็มีมากที่ไม่ได้โดดเด่นในสาขาอาชีพใดเลย และอื่นๆ อีกมากมายกับสมองที่มีความฉลาดและความถนัดแตกต่างกันออกไป

คำถามสำคัญก็คือ ปัจจัยใดบ้าง ที่มีส่วนสำคัญทำให้พัฒนาการความฉลาดของเด็กแตกต่างกัน ที่พ่อแม่สามารถมีส่วนช่วยส่งเสริมได้

1. อาหารมีประโยชน์กินแล้วฉลาด

การเลือกทานอาหารอย่างฉลาดเพื่อสุขภาพสมองที่ดี เริ่มต้นได้ตั้งแต่ในครรภ์ จนกระทั่งให้นมลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่คุณแม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ ด้านการทานวิตามินและแร่ธาตุให้ครบถ้วน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า เคล็ดลับก็คือ หลังอายุ6เดือนเริ่มให้ทานอาหารตามวัยและปลูกฝังให้ลูกชื่นชอบอาหารที่มีประโยชน์หลัก

เพื่อพัฒนาการเด็กที่ดี เด็กควรทานอาหารหลากหลายครบ5หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ ในปริมาณที่เพียงพอไม่มากเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กมีน้ำหนักเกินเพราะเด็กเล็กมักชอบรสเค็ม และรสหวาน ผู้ปกครองจึงควรปรุงรสเท่าที่จำเป็น และนอกจากนั้นเด็กควรได้รับวิตามิน และแร่ธาตุเสริมในปริมาณที่ผู้เชี่ยวชาญกำหนด

2. ยิ่่งอ่านยิ่งฉลาด

สมองก็คือกล้ามเนื้อซึ่งสามารถสร้างเสริมให้แข็งแรงได้ เหมือนกับการออกกำลังกายให้มีกล้ามเนื้อแข็งแรงนั่นเอง และพ่อแม่ก็สามารถช่วยกระตุ้นให้สมองลูกแข็งแรงและฉลาดได้จากการอ่านเป็นประจำ เริ่มจากการอ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนนอนเป็นประจำ และมีมุมชั้นหนังสือ ที่ให้ความรู้ หรือความเพลิดเพลิน เช่น หนังสือนิทาน หนังสือภาพ ฯลฯ มีไว้ในบ้านเพื่อให้ลูกหยิบอ่านเล่นให้เป็นนิสัย

3. สิ่งแวดล้อมที่บ้านและกิจกรรม

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เด็กๆ ที่เติบโตมากับบ้านที่มีกิจวัตรการพูดคุย การฟัง การอ่านเป็นประจำ มักเป็นเด็กที่ประสบความสำเร็จในโรงเรียน...ต่างกับเด็กที่ถูกทิ้งให้เล่นเกมส์ ดูทีวีคนเดียวเป็นประจำ

ดังนั้น พ่อแม่ควรพูดคุย กับลูกให้เป็นนิสัย และควรมีกิจกรรมทำร่วมกันกับลูกเป็นประจำ การเล่นกับลูกก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาการทางสมองของลูกได้แล้ว และควรหาของเล่น หรืออุปกรณ์กีฬาที่เหมาะสมกับช่วงวัยของลูกให้เค้าได้ฝึกการขยับร่างกาย ซึ่งจะช่วยทำให้เลือดไหลเวียนที่สมองมากขึ้น ส่งผลให้สมองแข็งแรง เป็นเด็กที่มีพัฒนาการทางความฉลาดที่ดีมากขึ้น

 

https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1022

https://www.rama.mahidol.ac.th/ramamental/generalknowledge/child/05152014-1100

https://www.webmd.com/baby/features/what-makes-kids-intelligen

https://www.penguin.co.uk/articles/childrens-article/introducing-books-to-baby-and-young-child

https://econ.nida.ac.th/2020/02/10098/

Careline Footer

Careline เคียงข้างคุณแม่…ดูแลลูกรัก

ทุกคำถามที่คุณแม่อยากรู้ เราพร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญพยาบาล และนักโภชนาการ.

x